เรื่องของการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ยังคงอยู่ในวังวนของการวิเคราะห์และโต้เถียงถึงความคุ้มค่าและผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (22 ต.ค.) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ได้ออกมาโพสต์ โดยกล่าวถึงนโยบายแจกเงินดิจิทัลของพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของเอเชียอย่าง “ฮ่องกง” ไว้ด้วย

จุลพันธ์ เผย ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ไม่ได้ลอกนโยบายญี่ปุ่น

ย้อนดูนโยบาย “แจกคูปอง” ของญี่ปุ่น คล้ายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท?

ไม่จำเป็นต้องสร้าง ซูเปอร์แอปฯ แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท

นายกิตติรัตน์ระบุว่า “ประชาชน “ชาวฮ่องกงทุกคน" ได้รับเงิน 5,000 เหรียญฮ่องกง หรือประมาณคนละ 23,000 บาท โดยรับเงินผ่านดิจิตัล วอลเล็ต เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2566 จำนวน 3,000 เหรียญฯ และหากใช้จนหมดภายในวันที่ 30 มิ.ย. ก็ได้รับ อีก 2,000 เหรียญฯ ที่เหลือตามสิทธิ์เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2566 นอกจากนั้น นักเรียน หรือ ผู้มาทำงานระยะยาว ก็ได้รับเงินครึ่งหนึ่งหรือ 2,500 เหรียญฮ่องกงด้วย”

นิวมีเดีย พีพีทีวี จึงขอชวนไปทำความรู้จัก “โครงการเงินกำนัลเพื่อการอุปโภคบริโภค” (Consumption Voucher Scheme: CVS) ของฮ่องกง ที่ใช้ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2021 หรือ 3 ปีแล้ว ในฐานะหนึ่งในกรณีศึกษาเรื่องการแจกเงินดิจิทัลที่น่าสนใจ

โครงการเงินกำนัลเพื่อการอุปโภคบริโภคคืออะไร?คำพูดจาก รวมเว็บ PG Slot

สำหรับโครงการ CVS นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงที่เศรษฐกิจที่รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 โดยแจกเงินให้กับประชาชนฮ่องกง คือผู้ที่พำนักถาวรในฮ่องกง ผู้พำนักในฮ่องกงที่มีเอกสารยืนยัน ผู้ที่มีบัตรประชาชนฮ่องกง ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกคน โดยแจกเป็นเงิน 5,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 23,000 บาท)

ส่วนผู้ที่อยู่ในฮ่องกงชั่วคราวด้วยเหตุผลอื่น เช่น ประกอบธุรกิจ มาทำงาน มาศึกษา จะได้รับเงินกำนัลเช่นกัน แต่ได้ครึ่งหนึ่งของประชาชนฮ่องกง คือ 2,500 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 11,000 บาท)

ในปี 2021 นั้น รัฐบาลฮ่องกงใช้วิธีการจ่ายเป็นเงินก้อนเดียว แต่ต่อมาในปี 2022 และ 2023 เปลี่ยนเป็นการจ่าย 2 งวด

โดยสำหรับประชาชนฮ่องกง งวดแรกจะได้ 3,000 ดอลลาร์ฮ่องกง งวดสองได้อีก 2,000 ดอลลาร์ฮ่องกง ส่วนผู้ที่ไปอยู่ชั่วคราว งวดแรกจะได้ 1,500 ดอลลาร์ฮ่องกงและงวดสองจะได้ 1,000 ดอลลาร์ฮ่องกง

แจกทางไหน?

ฮ่องกงนั้นคล้ายกับจีน คือมีช่องทางหรือแพลตฟอร์มการเงินที่สะดวกสบายจำนวนมาก ดังนั้นนโยบายการแจกเงินของฮ่องกงจึงเป็นการแจกเงินดิจิทัล โดยจะส่งเงินเข้าแพลตฟอร์มการเงินใด ๆ ก็ตามที่ผู้ใช้ลงทะเบียนไว้

แพลตฟอร์มที่รองรับเงินดิจิทัลของรัฐบาลฮ่องกง ได้แก่ AlipayHK, BoC Pay, PayMe from HSBC, Tap & Go และ WeChat Pay HK ซึ่งผู้ใช้จะลงทะเบียนรับเงินได้เพียงแพลตฟอร์มเดียวเท่านั้น โดยเมื่อเงินเข้า จะมีการแจ้งเตือนผ่านแอปฯ ข้อความ SMS หรืออีเมล

และอีกช่องทางหนึ่งคือ บัตร Octopus ซึ่งเป็นบัตรสารพัดประโยชน์ของฮ่องกง สามารถใช้เดินทาง ซื้องของ จ่ายค่าอาหาร ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวฮ่องกง ฯลฯ โดยเมื่อเงินเข้าบัตรก็จะแจ้งผ่านแอปฯ หรือข้อความ SMS รวมถึงนำบัตรไปแตะตามจุดบริการต่าง ๆ เพื่ออัปเดตเงิน

ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

โดยทั่วไป สามารถใช้เงินกำนัลเพื่อการอุปโภคบริโภคได้ที่ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร และบริการในท้องถิ่น หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่รับชำระเงินผ่าน AlipayHK, BoC Pay, Octopus, PayMe by HSBC, Tap & Go และ WeChat Pay HK

ตัวอย่างเช่น ร้านค้าปลีก แผงลอยในตลาด ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านฟาสต์ฟู้ด ร้านกาแฟ สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ร้านเสริมสวย การขนส่งสาธารณะ เป็นต้น เหล่านี้สามารถใช้ได้

ทั้งนี้ ไม่สามารถใช้เงินกำนัลกับธุรกรรมต่อไปนี้

• การชำระเงินให้กับรัฐบาล (เช่น ภาษี ค่าปรับ ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ค่าธรรมเนียมอุโมงค์ มิเตอร์จอดรถ)
• ชำระค่าสาธารณูปโภค (เช่น น้ำ ไฟฟ้า และก๊าซ)
• การชำระเงินให้กับองค์กรสาธารณะ (เช่น โรงพยาบาล มูลนิธิ ฯลฯ)
• ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา (เช่น การจ่ายเงินให้กับโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาที่เปิดสอนหลักสูตรในท้องถิ่นและนอกท้องถิ่น และมหาวิทยาลัยที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก UGC)
• การซื้อสินค้าหรือบริการทางการเงิน (เช่น ประกันภัย)
• การบริจาค (รวมถึงองค์กรการกุศล ศาสนา และการเมือง)
• การซื้อโดยตรงจากร้านค้าที่อยู่นอกฮ่องกง (รวมถึงการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ไม่ใช่ในประเทศที่ผลิตในท้องถิ่น)
• การชำระเงินแบบบุคคลต่อบุคคล

อายุการใช้งาน

งวดแรกเริ่มแจกวันที่ 16 เมษายน 2023 ใช้ได้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2023 งวดที่สองแจกวันที่ 16 กรกฎาคม 2023 หมดอายุวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2024 โดยรวมแล้วแต่ละงวดจะมีอายุการใช้ประมาณ 6 เดือนนั่นเอง

ทั้งนี้ มีเงื่อนไขย่อยบางอย่างสำหรับผู้ที่ใช้บัตร Octopus ในการรับเงิน นั่นคือ หากใช้เงินงวดแรกไม่หมดภายในวันหมดอายุ จะไม่มีสิทธิ์รับเงินงวดที่สอง ทั้งนี้ เพื่อเป็นกรากระตุ้นให้ผู้รับสิทธินำเงินที่ได้ไปจับจ่ายใช้สอยจริง ๆ

ฮ่องกงแจกเงินดิจิทัลแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง?

เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม พอล ชาน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังฮ่องกง เปิดเผยว่า หลังจากการแจกเงินงวดแรกของปีนี้ “เราเห็นสภาวะตลาดที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคร้านอาหาร แต่การค้าปลีกยังคงซบเซา สภาวะตลาดภายนอกยังคงไม่มีเสถียรภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการส่งออกของเรายังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง”

กระนั้น ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า การอจกเงินดิจิทัลของฮ่องกง ไม่สามารถช่วยธุรกิจขนาดเล็กได้เท่าที่ควร ซึ่งชานออกมาโต้แย้งว่า ประมาณ 90% ของบัตรกำนัลที่แจกจนถึงตอนนี้ ถูกนำมาใช้กับการซื้อเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีมูลค่าต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์ฮ่องกง จากธุรกิจรายย่อย

ก่อนหน้านี้ ชานกล่าวว่า รัฐบาลคาดการณ์ว่าคูปองอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในฮ่องกงได้ 0.6%

อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่า นี่อาจเป็นปีสุดท้ายที่ฮ่องกงจะดำเนินนโยบายแจกเงินดิจิทัล โดยชานบอกว่า โครงการนี้แต่เดิมมีขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในฮ่องกงที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

“สถานการณ์โรคระบาดสามารถควบคุมไว้ได้แล้วในปีนี้ และมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากที่ฮ่องกงเปิดพรมแดนอีกครั้ง” เขากล่าว และเสริมว่า การแจกเงินกำนัลซ้ำ ๆ ในระยะยาวคงเป็นเรื่องยาก เนื่องจากเป้นนโยบายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเวลาพิเศษ เช่น การแพร่ระบาด เท่านั้น และตอนนี้ฮ่องกงกำลังอยู่ในภาวะฟื้นตัวแล้ว

เรียบเรียงจาก Consumption Voucher Scheme / SCMP

ภาพจาก Freepik